การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษ (Speaking Skill)
เทคนิคการสอนทักษะการพูดภาษาอังกฤษ ( Speaking
Skill)
การสอนภาษาทุกภาษา มีธรรมชาติของการเรียนรู้เช่นเดียวกัน คือ
เริ่มจากการฟัง และการพูด แล้วจึงไปสู่การอ่านและการเขียน
ตามลำดับ การสอนทักษะการพูดภาษาอังกฤษในเบื้องต้น มุ่งเน้นความถูกต้องของการใช้ภาษา ( Accuracy) ในเรื่องของเสียง คำศัพท์ (
Vocabulary) ไวยากรณ์ ( Grammar) กระสวนประโยค (Patterns) ดังนั้น กิจกรรมที่จัดให้ผู้เรียนระดับต้นได้ฝึกทักษะการพูด จึงเน้นกิจกรรมที่ผู้เรียนต้องฝึกปฏิบัติตามแบบ หรือ ตามโครงสร้างประโยคที่กำหนดให้พูดเป็นส่วนใหญ่
สำหรับผู้เรียนระดับสูง กิจกรรมฝึกทักษะการพูด
จึงจะเน้นที่ความคล่องแคล่วของการใช้ภาษา ( Fluency) และจะเป็นการพูดแบบอิสระมากขึ้น เพราะจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการพูด
คือ การสื่อสารให้ผู้อื่นได้รับรู้ด้วยการพูดอย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว ครูผู้สอนจึงควรมีความรู้และความสามารถอย่างไร จึงจะสามารถจัดการเรียนรู้เพื่อฝึกทักษะการพูดให้แก่ผู้เรียนได้อย่างสอดคล้องกับระดับและศักยภาพของผู้เรียน
1. เทคนิควิธีปฎิบัติ
กิจกรรมการฝึกทักษะการพูด มี 3 รูปแบบ คือ
1.1 การฝึกพูดระดับกลไก (Mechanical Drills) เป็นการฝึกตามตัวแบบที่กำหนดให้ในหลายลักษณะ เช่น
- พูดเปลี่ยนคำศัพท์ในประโยค (Multiple Substitution Drill)
-พูดตั้งคำถามจากสถานการณ์ในประโยคบอกเล่า (Transformation Drill)
-พูดถามตอบตามรูปแบบของประโยคที่กำหนดให้ (Yes/No Question-Answer Drill)
-พูดสร้างประโยคต่อเติมจากประโยคที่กำหนดให้ (Sentence Building)
-พูดคำศัพท์ สำนวนในประโยคที่ถูกลบไปทีละส่วน (Rub out and Remember)
-พูดเรียงประโยคจากบทสนทนา (Ordering dialogues)
-พูดทายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในบทสนทนา (Predicting dialogue)
-พูดต่อเติมส่วนที่หายไปจากประโยค ( Completing Sentences )
-พูดให้เพื่อนเขียนตามคำบอก (Split Dictation)
1.2 การฝึกพูดอย่างมีความหมาย ( Meaningful Drills) เป็นการฝึกตามตัวแบบที่เน้นความหมายมากขึ้น มีหลายลักษณะ เช่น
-พูดสร้างประโยคเปรียบเทียบโดยใช้รูปภาพ
- พูดสร้างประโยคจากภาพที่กำหนดให้
- พูดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ในห้องเรียน
1.3 การฝึกพูดเพื่อการสื่อสาร (Communicative Drills) เป็นการฝึกเพื่อมุ่งเน้นการสื่อสาร เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสร้างคำตอบตามจินตนาการ เช่น
-พูดประโยคตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ( Situation)
-พูดตามสถานการณ์ที่กำหนดให้ ( Imaginary Situation)
-พูดบรรยายภาพหรือสถานการณ์แล้วให้เพื่อนวาดภาพตามที่พูด ( Describe and Draw)
1. เทคนิควิธีปฎิบัติ
กิจกรรมการฝึกทักษะการพูด มี 3 รูปแบบ คือ
1.1 การฝึกพูดระดับกลไก (Mechanical Drills) เป็นการฝึกตามตัวแบบที่กำหนดให้ในหลายลักษณะ เช่น
- พูดเปลี่ยนคำศัพท์ในประโยค (Multiple Substitution Drill)
-พูดตั้งคำถามจากสถานการณ์ในประโยคบอกเล่า (Transformation Drill)
-พูดถามตอบตามรูปแบบของประโยคที่กำหนดให้ (Yes/No Question-Answer Drill)
-พูดสร้างประโยคต่อเติมจากประโยคที่กำหนดให้ (Sentence Building)
-พูดคำศัพท์ สำนวนในประโยคที่ถูกลบไปทีละส่วน (Rub out and Remember)
-พูดเรียงประโยคจากบทสนทนา (Ordering dialogues)
-พูดทายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในบทสนทนา (Predicting dialogue)
-พูดต่อเติมส่วนที่หายไปจากประโยค ( Completing Sentences )
-พูดให้เพื่อนเขียนตามคำบอก (Split Dictation)
1.2 การฝึกพูดอย่างมีความหมาย ( Meaningful Drills) เป็นการฝึกตามตัวแบบที่เน้นความหมายมากขึ้น มีหลายลักษณะ เช่น
-พูดสร้างประโยคเปรียบเทียบโดยใช้รูปภาพ
- พูดสร้างประโยคจากภาพที่กำหนดให้
- พูดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ในห้องเรียน
1.3 การฝึกพูดเพื่อการสื่อสาร (Communicative Drills) เป็นการฝึกเพื่อมุ่งเน้นการสื่อสาร เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสร้างคำตอบตามจินตนาการ เช่น
-พูดประโยคตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ( Situation)
-พูดตามสถานการณ์ที่กำหนดให้ ( Imaginary Situation)
-พูดบรรยายภาพหรือสถานการณ์แล้วให้เพื่อนวาดภาพตามที่พูด ( Describe and Draw)
เป้าหมายของการเรียนการสอนทักษะการพูด
เป้าหมายของการเรียนการสอนทักษะการพูดคือจะต้องสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้เรียนควรที่รู้ความสามารถของตนเองว่าอยู่ในระดับไหน และควรที่จะหลีกเลี่ยงความสับสนในการออกเสียงของคำแต่ละคำ
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้ควรที่จะจัดกิจกรรมในทักษะการพูด
อย่างเช่น การพูดคุยกับครูผู้สอน , กิจกรรมการฟัง, การอ่านข้อความ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์สำหรับการพัฒนาทักษะการพูด
ในทักษะการพูด อาจารย์ผู้สอนควรสอนให้นักเรียนพูดให้เกิดประสิทธิภาพ
โดยมีกลยุทธ์ ดังนี้ คือ การใช้การตอบสนองน้อยที่สุด, ตระหนักถึงสคริปต์และการใช้ภาษาที่พูดคุย
ที่นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อาจารย์ผู้สอนควรช่วยนักเรียนเรียนรู้ที่จะพูดเพื่อให้นักเรียนสามารถใช้การพูดในการเรียนรู้ต่างๆได้
กิจกรรม Structured Output เป็นกิจกรรม
ที่เป็นช่องว่างด้านข้อมูลและกิจกรรมจิ๊กซอว์
กิจกรรมทั้งสองกิจกรรมนี้มีคุณสมบัติกิจกรรมเหมือนกัน แต่ช่องว่างด้านข้อมูลและกิจกรรมจิ๊กซอว์ยังได้จัดตั้งปฏิบัติเกี่ยวกับ
รายการที่เฉพาะเจาะจงของภาษา
ในแง่นี้พวกเขามีมากขึ้นเช่นการฝึกซ้อมกว่าเช่นการสื่อสาร
กิจกรรม Communicative Output ให้นักเรียนได้ฝึกการใช้ภาษาโดยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ
ในกิจกรรมเหล่านี้นักเรียนจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาต่างๆ
โดยจะพบมากที่สุดอาจจะเจอในห้องเรียน เนื่องอาจจะมีบทบาทที่คล้ายกับชีวิตจริง
นอกจากนี้จะต้องมีความความสัมพันธ์กับในหมู่นักเรียนและพัฒนาความสามารถของพวกเขา
โดยการใช้ภาษาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น